มูลค่าต่อหน่วย NAV: Difference between revisions
(Created page with "กลับไปยังหน้า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)") |
No edit summary |
||
(2 intermediate revisions by the same user not shown) | |||
Line 1: | Line 1: | ||
[[กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)|กลับไปยังหน้า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)]] | [[กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)|กลับไปยังหน้า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)]] | ||
[[การลงทุนของ กบข.|กลับไปยังหน้า การลงทุนของ กบข.]] | |||
=== '''มูลค่าต่อหน่วย (NAV)''' === | |||
ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา กบข. มีการจัดสรรผลประโยชน์เข้าบัญชีสมาชิกเป็นรายวันทุกวัน โดยใช้การคิดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็นหน่วยลงทุน (Daily Unitization) โดย กบข. ได้นำเรื่อง ระบบหน่วยลงทุน มาใช้งานทะเบียนสมาชิกรายบุคคล เพื่อประโยชน์ในการบันทึกบัญชีของสมาชิกที่มีประสิทธิภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของกองทุน โดย ณ วันที่ 1 มกราคม 2545 จำนวนเงินในบัญชีของสมาชิกทั้งสิ้น จะถูกคำนวณเป็นจำนวนหน่วยด้วยมูลค่าหน่วยเริ่มต้นที่ 10 บาท ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด จากนั้นจำนวนหน่วยในบัญชีของสมาชิกจะเพิ่มขี้นเมื่อมีการส่งเงินเพิ่มเข้ามาใหม่ และจะลดลงเมื่อมีการถอนเงินออกจากกองทุน ส่วนมูลค่าต่อหน่วยจะเปลี่ยนแปลงตามผลการดำเนินงานของกองทุน โดยที่มูลค่าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น หมายถึง กองทุนมีผลการลงทุนที่มีกำไร มูลค่าต่อหน่วยลดลง หมายถึง กองทุนมีผลการลงทุนที่ขาดทุน | |||
==== '''มูลค่าต่อหน่วย''' ==== | |||
คือ มูลค่าต่อหน่วยซึ่งคำนวณโดยนำมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนสมาชิกหารด้วยจำนวนหน่วย ของกองทุนส่วนสมาชิกทั้งหมด ณ วันที่คำนวณมูลค่าต่อหน่วยนั้น | |||
==== '''มูลค่าสินทรัพย์สุทธิส่วนสมาชิก''' ==== | |||
คือ ส่วนของเงินต้นประเภทต่าง ๆ (ไม่รวมเงินสำรอง) อาทิ เงินสะสม เงินสมทบเงินชดเชย เงินประเดิม เงินกองกลางและผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวทั้งหมด | |||
==== '''มูลค่ากองทุนส่วนสำรอง''' ==== | |||
คือ เงินที่รัฐจ่ายเข้า กบข. เป็นรายปี เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายบำเหน็จบำนาญของข้าราชการประจำปี และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว โดยเงินสำรองนี้หากเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐอาจสั่งให้กบข. ส่งเงินส่วนนี้กลับคืนเป็นรายได้แผ่นดินเพื่อจ่ายเป็นบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แต่รัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยส่วนของเงินที่นำไปใช้ส่งคืน กบข. ในปีงบประมาณถัดไป | |||
==== '''จำนวนหน่วย''' ==== | |||
คือ จำนวนหน่วยของสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนสมาชิกทั้งหมด | |||
==== '''วิธีการหาจำนวนหน่วย''' ==== | |||
จำนวนหน่วย = จำนวนเงิน ÷ มูลค่าต่อหน่วย ณ วันทำรายการ (วันที่เงินเข้าบัญชี กบข.) | |||
==== '''วิธีการหามูลค่าต่อหน่วย''' ==== | |||
มูลค่าต่อหน่วย = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวมของกองทุน ÷ จำนวนหน่วย | |||
==== '''วิธีการคำนวณเงินในบัญชีสมาชิก''' ==== | |||
จำนวนเงินในบัญชีสมาชิก = จำนวนหน่วย × มูลค่าต่อหน่วย | |||
==== '''วิธีการคำนวณอัตราผลประโยชน์สุทธิ''' ==== | |||
อัตราผลประโยชน์สุทธิ = 100 × (มูลค่าต่อหน่วยปลายงวด - มูลค่าต่อหน่วยต้นงวด) ÷ มูลค่าต่อหน่วยต้นงวด | |||
==== '''ช่องทางการตรวจสอบมูลค่าต่อหน่วย NAV''' มี 3 ช่องทาง ==== | |||
1. ผ่านหน้า [http://www.gpf.or.th/ www.gpf.or.th] เมนู “เกี่ยวกับ กบข.” หัวข้อ “สถิติสำคัญ” เลือก มูลค่ากองทุน | |||
2. ผ่านบริการ My GPF Application กดที่ Menu เลือกเมนู '''ข้อมูลการลงทุน''' | |||
3. ผ่าน IVR เมนู 4 กด 2 |
Latest revision as of 08:35, 22 January 2025
กลับไปยังหน้า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)
กลับไปยังหน้า การลงทุนของ กบข.
มูลค่าต่อหน่วย (NAV)
ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา กบข. มีการจัดสรรผลประโยชน์เข้าบัญชีสมาชิกเป็นรายวันทุกวัน โดยใช้การคิดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็นหน่วยลงทุน (Daily Unitization) โดย กบข. ได้นำเรื่อง ระบบหน่วยลงทุน มาใช้งานทะเบียนสมาชิกรายบุคคล เพื่อประโยชน์ในการบันทึกบัญชีของสมาชิกที่มีประสิทธิภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของกองทุน โดย ณ วันที่ 1 มกราคม 2545 จำนวนเงินในบัญชีของสมาชิกทั้งสิ้น จะถูกคำนวณเป็นจำนวนหน่วยด้วยมูลค่าหน่วยเริ่มต้นที่ 10 บาท ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด จากนั้นจำนวนหน่วยในบัญชีของสมาชิกจะเพิ่มขี้นเมื่อมีการส่งเงินเพิ่มเข้ามาใหม่ และจะลดลงเมื่อมีการถอนเงินออกจากกองทุน ส่วนมูลค่าต่อหน่วยจะเปลี่ยนแปลงตามผลการดำเนินงานของกองทุน โดยที่มูลค่าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น หมายถึง กองทุนมีผลการลงทุนที่มีกำไร มูลค่าต่อหน่วยลดลง หมายถึง กองทุนมีผลการลงทุนที่ขาดทุน
มูลค่าต่อหน่วย
คือ มูลค่าต่อหน่วยซึ่งคำนวณโดยนำมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนสมาชิกหารด้วยจำนวนหน่วย ของกองทุนส่วนสมาชิกทั้งหมด ณ วันที่คำนวณมูลค่าต่อหน่วยนั้น
มูลค่าสินทรัพย์สุทธิส่วนสมาชิก
คือ ส่วนของเงินต้นประเภทต่าง ๆ (ไม่รวมเงินสำรอง) อาทิ เงินสะสม เงินสมทบเงินชดเชย เงินประเดิม เงินกองกลางและผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวทั้งหมด
มูลค่ากองทุนส่วนสำรอง
คือ เงินที่รัฐจ่ายเข้า กบข. เป็นรายปี เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายบำเหน็จบำนาญของข้าราชการประจำปี และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว โดยเงินสำรองนี้หากเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐอาจสั่งให้กบข. ส่งเงินส่วนนี้กลับคืนเป็นรายได้แผ่นดินเพื่อจ่ายเป็นบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แต่รัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยส่วนของเงินที่นำไปใช้ส่งคืน กบข. ในปีงบประมาณถัดไป
จำนวนหน่วย
คือ จำนวนหน่วยของสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนสมาชิกทั้งหมด
วิธีการหาจำนวนหน่วย
จำนวนหน่วย = จำนวนเงิน ÷ มูลค่าต่อหน่วย ณ วันทำรายการ (วันที่เงินเข้าบัญชี กบข.)
วิธีการหามูลค่าต่อหน่วย
มูลค่าต่อหน่วย = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวมของกองทุน ÷ จำนวนหน่วย
วิธีการคำนวณเงินในบัญชีสมาชิก
จำนวนเงินในบัญชีสมาชิก = จำนวนหน่วย × มูลค่าต่อหน่วย
วิธีการคำนวณอัตราผลประโยชน์สุทธิ
อัตราผลประโยชน์สุทธิ = 100 × (มูลค่าต่อหน่วยปลายงวด - มูลค่าต่อหน่วยต้นงวด) ÷ มูลค่าต่อหน่วยต้นงวด
ช่องทางการตรวจสอบมูลค่าต่อหน่วย NAV มี 3 ช่องทาง
1. ผ่านหน้า www.gpf.or.th เมนู “เกี่ยวกับ กบข.” หัวข้อ “สถิติสำคัญ” เลือก มูลค่ากองทุน
2. ผ่านบริการ My GPF Application กดที่ Menu เลือกเมนู ข้อมูลการลงทุน
3. ผ่าน IVR เมนู 4 กด 2