สอบถามสถานะสินเชื่อ: Difference between revisions

From KB
No edit summary
No edit summary
 
(One intermediate revision by the same user not shown)
Line 10: Line 10:
==== ทำความเข้าใจเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของ ธอส. ====
==== ทำความเข้าใจเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของ ธอส. ====
ก่อนจะทำการขอสินเชื่อบ้าน ผู้สมัครจะต้องทำความเข้าใจเกณฑ์ในการอนุมัติสินเชื่อของ ธอส. ก่อนเป็นอันดับแรก โดยผู้ขอสินเชื่อบ้านจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งจะสามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุด 40 ปี ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัคร รวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปี หรือ 75 ปี (แล้วแต่กรณี)
ก่อนจะทำการขอสินเชื่อบ้าน ผู้สมัครจะต้องทำความเข้าใจเกณฑ์ในการอนุมัติสินเชื่อของ ธอส. ก่อนเป็นอันดับแรก โดยผู้ขอสินเชื่อบ้านจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งจะสามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุด 40 ปี ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัคร รวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปี หรือ 75 ปี (แล้วแต่กรณี)
https://www.ghbank.co.th/product-detail/project-loan-for-carbon-reduction-building-2567
https://www.google.com/


==== ทำการยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคาร หรือแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ====
==== ทำการยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคาร หรือแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ====

Latest revision as of 02:00, 19 July 2024

กลับไปยังหน้าบริการด้านสินเชื่อ

ธนาคารจะแจ้งผลการอนุมัติผ่าน 2 ทาง

- Application GHB ALL BFRIEND

- Line GHB Buddy

5 ขั้นตอน การขอสินเชื่อบ้าน ธอส.

ทำความเข้าใจเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของ ธอส.

ก่อนจะทำการขอสินเชื่อบ้าน ผู้สมัครจะต้องทำความเข้าใจเกณฑ์ในการอนุมัติสินเชื่อของ ธอส. ก่อนเป็นอันดับแรก โดยผู้ขอสินเชื่อบ้านจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งจะสามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุด 40 ปี ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัคร รวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปี หรือ 75 ปี (แล้วแต่กรณี)

https://www.ghbank.co.th/product-detail/project-loan-for-carbon-reduction-building-2567

https://www.google.com/

ทำการยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคาร หรือแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN

หลังจากที่เราทำความเข้าใจเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของ ธอส. แล้ว ขั้นตอนต่อไปเราสามารถยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่สาขาธนาคารที่สะดวก โดยพนักงานจะพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นจากข้อมูลการสัมภาษณ์ และเอกสารของเรา เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้สินอื่น ๆ เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระบ้านของเรานั่นเอง

หรือถ้าหากไม่สะดวกไปที่สาขาธนาคาร ปัจจุบันทาง ธอส. ขอนำเสนอแอปพลิเคชันที่สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งานทุกคนโดยแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า GHB ALL GEN ที่จะทำให้คุณสามารภขอสินเชื่อบ้าน ธอส. ได้ง่าย ๆ แค่ไม่กี่นาทีก็เรียบร้อย และยังสามารถติดตามสถานะของการอนุมัติได้ผ่านแอปพลิเคชันอีกด้วย border|center|603x603px


การขอสินเชื่อบ้านผ่าน GHB ALL GEN

สำหรับวิธีการขอสินเชื่อบ้านผ่าน GHB ALL GEN เพียงแค่เริ่มต้นด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นตามระบบที่ใช้งาน

จากนั้นให้เปิดแอปพลิเคชั่น และกรอกข้อมูล

ขั้นตอนที่ 1:

  • กดปุ่ม “ขอสินเชื่อ”
  • กรอกชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์
  • กดเลือก “วัตถุประสงค์การกู้”ตามที่ลูกค้าต้องการขอสินเชื่อ เช่น  ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ปลูกสร้างบ้าน ต่อเติมปรับปรุงบ้าน รีไฟแนนซ์ (ไถ่ถอนจากธนาคารอื่น) และซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน  
  • จากนั้นใส่วงเงินที่ต้องการขอสินเชื่อ

ขั้นตอนที่ 2:

  • เลือก “จังหวัดที่ตั้งหลักประกัน” และ “สาขาที่ลูกค้าสะดวกติดต่อ”
  • หากมีไฟล์เอกสารที่ลูกค้าต้องการส่งให้พนักงานสินเชื่อ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ ฯลฯ สามารถกดที่ปุ่ม “อัปโหลดไฟล์”และ “อัปโหลดภาพ” ส่งไฟล์เอกสารได้เลย
  • เมื่อเรียบร้อยแล้วกดที่ปุ่ม “ติดต่อเจ้าหน้าที่”
  • หน้าจอจะขึ้นข้อความว่า “ขอสินเชื่อเรียบร้อยแล้ว”

สรุปวิเคราะห์และนำเสนอคำขอสินเชื่อ พร้อมเอกสารประกอบเพื่อรอการพิจารณาอนุมัติ

ขั้นตอนต่อมา เมื่อพิจารณาแล้วว่าผู้ขอสินเชื่อมีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามวงเงินที่ยื่นขอสินเชื่อไว้ พนักงานของ ธอส. จะส่งเรื่องต่อให้งานประเมินหลักทรัพย์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประเมินราคาหลักประกัน

หลังจากนั้นพนักงานจะติดต่อมา เพื่อนัดหมายเข้าไปประเมินมูลค่าหลักประกัน ตามวัน และเวลาที่เราสะดวก ภายใน 3 วันทำการ ซึ่งหลังจากที่เราได้ยื่นใบคำขอสินเชื่อแล้ว พนักงานสาขาจะทำการบันทึกข้อมูลลงในระบบตามการสัมภาษณ์ และเอกสารของเรา เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หรือหนี้สินอื่น ๆ เพื่อส่งให้ผู้อนุมัติสินเชื่อพิจารณาต่อไป

แต่สำหรับผู้ที่มีการขอสินเชื่อบ้านผ่าน GHB ALL GEN ลูกค้าจะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ภายใน 1-2 วันทำการ เพื่อสัมภาษณ์ข้อมูลประกอบการยื่นกู้ โดยคุณสามารถส่งเอกสาร และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขอสินเชื่อบ้านผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อทำให้กระบวนการตรวจสอบเรื่องราวและอนุมัติเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งจะพิจารณาจากปัจจัยดังนี้

  • วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ เช่น ซื้อที่ดินอาคาร,ซื้อห้องชุด,ไถ่ถอนจำนอง ฯลฯ
  • คุณสมบัติผู้ขอกู้ เช่น สถานภาพ, การศึกษา, อาชีพ ฯลฯ
  • ความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ
  • ประเภท และมูลค่าของหลักประกัน

แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

เมื่อเราทำการยื่นเอกสาร ทำการสัมภาษณ์ และทางธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ขอสินเชื่อเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจะติดต่อ และแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เราได้ทราบภายใน 7 วันทำการ นับจากวันที่ยื่นใบคำขอสินเชื่อ พร้อมเอกสารประกอบอย่างครบถ้วน เพื่อเตรียมนัดวันทำสัญญา border|center|634x634px

ทำสัญญากู้เงิน และสัญญาจดจำนอง

เมื่อเราได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคารจะติดต่อนัดหมาย เพื่อทำสัญญากู้เงินที่สาขาของธนาคาร และนัดวันทำนิติกรรม ณ กรมที่ดิน ที่หลักประกันหรือโฉนดที่ดิน จดทะเบียนไว้ ซึ่งในกรณีที่มีผู้กู้ร่วม หรือคู่สมรส เราจะต้องทำการนัดหมายให้บุคคลเหล่านั้นมาร่วมลงนามในสัญญาทุกฉบับด้วยเช่นกัน และสำหรับค่าใช้จ่ายในวันทำสัญญา พนักงานธนาคารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่นัดหมาย


เอกสารประกอบการขอสินเชื่อมีอะไรบ้าง

เอกสารส่วนตัว

– บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

– ทะเบียนบ้าน

– สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่ (หากมี)

– สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (หากมี)

– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส(หากมี)

เอกสารแสดงรายได้

กรณีอาชีพประจำ

– หนังสือรับรองเงินเดือน/หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ

– สลิบเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน

– Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน

– หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)

กรณีอาชีพอิสระ

-Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน

-สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนพาณิชย์/ทะเบียนบริษัท/ทะเบียนนิติบุคคล

-หลักฐานการเสียภาษีเงินได้

-ภาพถ่ายกิจการ 3-4 ใบ

-สำเนาใบประกอบวิชาชีพ

-สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสั่งซื้อสินค้า

-หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)

เอกสารหลักประกัน

– สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะแห่งชาติ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีกู้ซื้อ)

– สำเนาหนังสือสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม (กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายฯ)

– ใบเสร็จการผ่อนชำระ หรือบัญชีหมุนเวียน ย้อนหลัง 1 หรือ 2 ปี (กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายฯ)

– หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร

– สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน

– สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก./หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า (กรณีซื้อทรัพย์มือสองต้องรับรองสำเนาโดยเจ้าพนักงานที่ดิน)

– ใบอนุญาตปลูกสร้าง/ต่อเติม

– แบบแปลน/พิมพ์เขียว

– ใบประมาณการปลูกสร้าง/สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง