ผู้มีสิทธิรับเงิน กรณีสมาชิกเสียชีวิต: Difference between revisions
(Created page with "กลับไปยังหน้า เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการรับเงิน") |
No edit summary |
||
Line 1: | Line 1: | ||
[[เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการรับเงิน|กลับไปยังหน้า เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการรับเงิน]] | [[เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการรับเงิน|กลับไปยังหน้า เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการรับเงิน]] | ||
=== '''ผู้มีสิทธิรับเงิน กบข.''' กรณีสมาชิกเสียชีวิต มีรายละเอียดดังนี้ === | |||
1. ผู้มีสิทธิรับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามมาตรา 1629 มีดังนี้ | |||
* คู่สมรส (จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย) | |||
* ทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 6 ลำดับ ดังนี้ | |||
1. ผู้สืบสันดาน หมายถึง บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเกิดจากบิดามารดาสมรสกันตามกฎหมาย หรือ บุตรที่บิดารับรองบุตร หรือบุตรบุญธรรม | |||
2. บิดา มารดา หมายถึง บิดามารดาที่สมรสกันตามกฎหมาย | |||
3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หากไม่มีทายาทลำดับ (1) และลำดับ (2) ดังกล่าวข้างต้น ทายาทลำดับนี้จึงจะมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก | |||
4. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน หากไม่มีลำดับ (1)-(3) จึงจะมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก | |||
5. ปู่ ย่า ตา ยาย หากไม่มีทายาท (1) - (4) จึงมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก | |||
6. ลุง ป้า น้า อา หากไม่มีทายาท (1) - (5) จึงมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก | |||
2. ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มีรายละเอียดดังนี้ | |||
1. สมาชิกจะต้องทำเป็นพินัยกรรมฝ่ายเมือง ที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ทำที่อำเภอหรือเขต) | |||
2. เมื่อสมาชิกเสียชีวิต ให้ทายาทที่มีชื่อตามพินัยกรรมไปร้องขอต่อศาล เพื่อแต่งตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม | |||
3. ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมทำเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข. | |||
4. กบข. จะดำเนินการจ่ายเงินคืนแก่ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม | |||
3. ผู้จัดการมรดก กบข. จะจ่ายเงินให้ผู้จัดการมรดก เพื่อทำหน้าที่จัดการทรัพย์สินให้กับทายาทตาม ป.พ.พ. ต่อไป | |||
'''สิทธิการรับเงินกรณีทายาทของทายาทเสียชีวิต''' | |||
* บิดาที่มีการรับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายหลังจากบุตรเสียชีวิตแล้ว | |||
ปัจจุบัน ได้มีการแก้ไขกฎหมายโดยเฉพาะ มาตรา 1557 ปพพ. (แก้ไขปี 2551) ได้เปลี่ยนแปลงหลักการ โดยกำหนดให้เด็กที่เกิดจากบิดา มารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต่อเมื่อ บิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง | |||
หรือ บิดาได้จดทะเบียนรับรองบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่เด็กเกิด ดังนั้น "บิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย" หากมีการรับรอง หรือมีคำพิพากษาของศาลว่าเป็นบุตร จะเป็นก่อน หรือ หลังวันที่สมาชิกเสียชีวิต | |||
ก็ได้ ให้ถือว่าเป็นทายาท เพราะให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่เด็กเกิด | |||
* '''มรดกแทนที่''' | |||
กรณีทายาทลำดับ | |||
1 ผู้สืบสันดาน | |||
3 พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน (หากไม่มีทายาทลำดับ 1 กับ 2 ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ) | |||
4 พี่น้องร่วมบิดา หรือมารดาเดียวกัน (หากไม่มีทายาทลำดับ 1 กับ 2 และ 3 ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ) | |||
6 ลุงป้าน้าอา (หากไม่มีทายาทลำดับ 1 -5 ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ) | |||
เสียชีวิตก่อนสมาชิก ผู้สืบสันดาน(บุตร) ของทายาทลำดับดังกล่าวจะได้รับมรดกแทนที่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 1639 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ | |||
กรณีเสียชีวิตหลังสมาชิกจะเป็นเงินมรดกตกทอดของทายาท ซึ่งผู้มีสิทธิ์รับเงินคือ คู่สมรส บุตร | |||
* '''การจ่ายเงินกรณีทายาทเสียชีวิตหลังสมาชิก''' | |||
กรณีสมาชิกเสียชีวิตและทายาทผู้มีสิทธิรับเงินเสียชีวิตภายหลังสมาชิก เงินในส่วนที่ทายาทผู้เสียชีวิตมีสิทธิได้รับ กบข. จะจ่ายคืนให้กับทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของทายาทที่เสียชีวิต | |||
<nowiki>*****</nowiki> ตัวอย่าง | |||
สมาชิกเสียชีวิตทายาทที่มีสิทธิ์ได้รับเงินมี ภรรยา บุตร มารดา ต่อมา มารดาเสียชีวิตหลังสมาชิก การแบ่งส่วนต้องเป็นดังนี้ | |||
สิทธิ์ในการรับเงินของมารดาผู้ตาย จะตกแก่บุตรทุกคนรวมผู้เสียชีวิตด้วย สิทธิ์ของมารดาจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ให้บุตรที่มีชีวิตอยู่ และผู้ตายที่เป็นบุตร(สมาชิก) ที่เสียชีวิตซึ่งเงินส่วนที่ผู้ตายได้รับจะตกเป็นของบุตรผู้ตาย | |||
* '''การแบ่งส่วนกรณีผู้รับเงินคือ คู่สมรส + ทายาทลำดับ 2 3 4 5 6 (กรณีไม่มีบุตร)''' มีการแบ่งดังนี้ | |||
คู่สมรสจะได้รับสินสมรส กึ่งหนึ่งก่อน (มาตรา 1625 (1) และ 1635 (2) และส่วนที่เหลือ คือ เงินมรดกซึ่งคู่สมรสจะได้รับกึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือจึงจะถูกแบ่งให้ทายาทลำดับอื่นคนละส่วนเท่าๆกัน (มาตรา1629) | |||
ตัวอย่างเช่น เงิน 100 บาท คู่สมรสจะได้รับส่วนของสินสมรสก่อน 50 บาท (จดทะเบียนก่อน 27/3/40 ถ้าจดหลังจะขึ้นอยู่กับวันที่จดทะเบียนสมรสด้วย) และส่วนที่เหลือ 50 บาทคือเงินมรดก คู่สมรสจะได้รับเงินมรดก 25 บาท และอีก 25 จะถูกแบ่งให้ทายาทที่เหลือคนละส่วนเท่า ๆ กัน | |||
* '''สิทธิการรับเงินกรณีทารกอยู่ในครรภ์''' | |||
กรณีที่สมาชิกเสียชีวิต ในขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์อยู่นั้น หากทารกได้คลอดและอยู่รอดโดยมีสภาพบุคคล ภายใน 310 วันนับแต่วันที่สมาชิกเสียชีวิด กฎหมายให้ถือว่าเด็กนั้นเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของสมาชิก(บิดา) ด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1604 ประกอบ มาตรา 15 |
Revision as of 10:49, 2 January 2025
กลับไปยังหน้า เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการรับเงิน
ผู้มีสิทธิรับเงิน กบข. กรณีสมาชิกเสียชีวิต มีรายละเอียดดังนี้
1. ผู้มีสิทธิรับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามมาตรา 1629 มีดังนี้
- คู่สมรส (จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย)
- ทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 6 ลำดับ ดังนี้
1. ผู้สืบสันดาน หมายถึง บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเกิดจากบิดามารดาสมรสกันตามกฎหมาย หรือ บุตรที่บิดารับรองบุตร หรือบุตรบุญธรรม
2. บิดา มารดา หมายถึง บิดามารดาที่สมรสกันตามกฎหมาย
3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หากไม่มีทายาทลำดับ (1) และลำดับ (2) ดังกล่าวข้างต้น ทายาทลำดับนี้จึงจะมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก
4. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน หากไม่มีลำดับ (1)-(3) จึงจะมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก
5. ปู่ ย่า ตา ยาย หากไม่มีทายาท (1) - (4) จึงมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก
6. ลุง ป้า น้า อา หากไม่มีทายาท (1) - (5) จึงมีสิทธิได้รับเงินของสมาชิก
2. ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มีรายละเอียดดังนี้
1. สมาชิกจะต้องทำเป็นพินัยกรรมฝ่ายเมือง ที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ทำที่อำเภอหรือเขต)
2. เมื่อสมาชิกเสียชีวิต ให้ทายาทที่มีชื่อตามพินัยกรรมไปร้องขอต่อศาล เพื่อแต่งตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
3. ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมทำเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข.
4. กบข. จะดำเนินการจ่ายเงินคืนแก่ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
3. ผู้จัดการมรดก กบข. จะจ่ายเงินให้ผู้จัดการมรดก เพื่อทำหน้าที่จัดการทรัพย์สินให้กับทายาทตาม ป.พ.พ. ต่อไป
สิทธิการรับเงินกรณีทายาทของทายาทเสียชีวิต
- บิดาที่มีการรับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายหลังจากบุตรเสียชีวิตแล้ว
ปัจจุบัน ได้มีการแก้ไขกฎหมายโดยเฉพาะ มาตรา 1557 ปพพ. (แก้ไขปี 2551) ได้เปลี่ยนแปลงหลักการ โดยกำหนดให้เด็กที่เกิดจากบิดา มารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต่อเมื่อ บิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง
หรือ บิดาได้จดทะเบียนรับรองบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่เด็กเกิด ดังนั้น "บิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย" หากมีการรับรอง หรือมีคำพิพากษาของศาลว่าเป็นบุตร จะเป็นก่อน หรือ หลังวันที่สมาชิกเสียชีวิต
ก็ได้ ให้ถือว่าเป็นทายาท เพราะให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่เด็กเกิด
- มรดกแทนที่
กรณีทายาทลำดับ
1 ผู้สืบสันดาน
3 พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน (หากไม่มีทายาทลำดับ 1 กับ 2 ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ)
4 พี่น้องร่วมบิดา หรือมารดาเดียวกัน (หากไม่มีทายาทลำดับ 1 กับ 2 และ 3 ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ)
6 ลุงป้าน้าอา (หากไม่มีทายาทลำดับ 1 -5 ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับ)
เสียชีวิตก่อนสมาชิก ผู้สืบสันดาน(บุตร) ของทายาทลำดับดังกล่าวจะได้รับมรดกแทนที่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 1639 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กรณีเสียชีวิตหลังสมาชิกจะเป็นเงินมรดกตกทอดของทายาท ซึ่งผู้มีสิทธิ์รับเงินคือ คู่สมรส บุตร
- การจ่ายเงินกรณีทายาทเสียชีวิตหลังสมาชิก
กรณีสมาชิกเสียชีวิตและทายาทผู้มีสิทธิรับเงินเสียชีวิตภายหลังสมาชิก เงินในส่วนที่ทายาทผู้เสียชีวิตมีสิทธิได้รับ กบข. จะจ่ายคืนให้กับทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของทายาทที่เสียชีวิต
***** ตัวอย่าง
สมาชิกเสียชีวิตทายาทที่มีสิทธิ์ได้รับเงินมี ภรรยา บุตร มารดา ต่อมา มารดาเสียชีวิตหลังสมาชิก การแบ่งส่วนต้องเป็นดังนี้
สิทธิ์ในการรับเงินของมารดาผู้ตาย จะตกแก่บุตรทุกคนรวมผู้เสียชีวิตด้วย สิทธิ์ของมารดาจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ให้บุตรที่มีชีวิตอยู่ และผู้ตายที่เป็นบุตร(สมาชิก) ที่เสียชีวิตซึ่งเงินส่วนที่ผู้ตายได้รับจะตกเป็นของบุตรผู้ตาย
- การแบ่งส่วนกรณีผู้รับเงินคือ คู่สมรส + ทายาทลำดับ 2 3 4 5 6 (กรณีไม่มีบุตร) มีการแบ่งดังนี้
คู่สมรสจะได้รับสินสมรส กึ่งหนึ่งก่อน (มาตรา 1625 (1) และ 1635 (2) และส่วนที่เหลือ คือ เงินมรดกซึ่งคู่สมรสจะได้รับกึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือจึงจะถูกแบ่งให้ทายาทลำดับอื่นคนละส่วนเท่าๆกัน (มาตรา1629)
ตัวอย่างเช่น เงิน 100 บาท คู่สมรสจะได้รับส่วนของสินสมรสก่อน 50 บาท (จดทะเบียนก่อน 27/3/40 ถ้าจดหลังจะขึ้นอยู่กับวันที่จดทะเบียนสมรสด้วย) และส่วนที่เหลือ 50 บาทคือเงินมรดก คู่สมรสจะได้รับเงินมรดก 25 บาท และอีก 25 จะถูกแบ่งให้ทายาทที่เหลือคนละส่วนเท่า ๆ กัน
- สิทธิการรับเงินกรณีทารกอยู่ในครรภ์
กรณีที่สมาชิกเสียชีวิต ในขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์อยู่นั้น หากทารกได้คลอดและอยู่รอดโดยมีสภาพบุคคล ภายใน 310 วันนับแต่วันที่สมาชิกเสียชีวิด กฎหมายให้ถือว่าเด็กนั้นเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของสมาชิก(บิดา) ด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1604 ประกอบ มาตรา 15