เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการยื่นภาษี: Difference between revisions

From KB
No edit summary
No edit summary
Line 6: Line 6:
เมื่อรวมกับกองทุน RMF ,กองทุน SSF (ปกติ) ,ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ
เมื่อรวมกับกองทุน RMF ,กองทุน SSF (ปกติ) ,ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ


ตามประกาศของกรมสรรพากร กฏกระทรวงฉบับที่ 126 (43)เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
ตามประกาศของกรมสรรพากร '''กฏกระทรวงฉบับที่ 126''' (43)เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ


ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าแสนบาทสำหรับปีภาษีนั้น
ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าแสนบาทสำหรับปีภาษีนั้น
Line 12: Line 12:
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป)
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป)


คลิกดูข้อมูลที่นี่ <nowiki>https://www.rd.go.th/59674.html</nowiki>
คลิกดูข้อมูลที่นี่ https://www.rd.go.th/59674.html


<nowiki>---------------------------------------------</nowiki>
<nowiki>---------------------------------------------</nowiki>


==== '''เงินได้ที่ได้รับจาก กองทุนบำเหน็จบำนาญ''' ====
==== เงินได้ที่ได้รับจาก กองทุนบำเหน็จบำนาญ ====
กรณีสมาชิกพ้นสภาพและได้รับเงินได้จาก กบข. เนื่องจากออกจากราชการด้วยเหตุ ลาออก ,ปลดออก,ไล่ออก สมาชิกต้องนำเงินได้ที่ได้รับจาก กบข. ที่ได้แสดงในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเสียภาษีในแบบ ภ.ง.ด. 90, 9 โดยสามารถนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่นๆ หรือจะยื่นแยกคำนวณภาษีต่างหากก็ได้ ซึ่งการแยกคำนวณภาษี มักจะช่วยให้สมาชิกเสียภาษีถูกกว่าการนำไปรวมคำนวณภาษีกับรายได้อื่นๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กัยรายได้และค่าตอบแทนของแต่ละบุคคล
กรณีสมาชิกพ้นสภาพและได้รับเงินได้จาก กบข. เนื่องจากออกจากราชการด้วยเหตุ ลาออก ,ปลดออก,ไล่ออก สมาชิกต้องนำเงินได้ที่ได้รับจาก กบข. ที่ได้แสดงในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเสียภาษีในแบบ ภ.ง.ด. 90, 9 โดยสามารถนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่นๆ หรือจะยื่นแยกคำนวณภาษีต่างหากก็ได้ ซึ่งการแยกคำนวณภาษี มักจะช่วยให้สมาชิกเสียภาษีถูกกว่าการนำไปรวมคำนวณภาษีกับรายได้อื่นๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กัยรายได้และค่าตอบแทนของแต่ละบุคคล


                   หากต้องการยื่นแยกคำนวณสมาชิกจะต้องใช้แบบฟอร์มแนบ “ใบแนบ ภ.ง.ด.90,91” ตามตัวอย่างนี้   
                   หากต้องการยื่นแยกคำนวณสมาชิกจะต้องใช้แบบฟอร์มแนบ “'''ใบแนบ ภ.ง.ด.90,91'''” ตามตัวอย่างนี้   
 
[[File:65.png|border|center|678x678px]]
 
 
 


=== '''สิทธิประโยชน์ทางภาษี''' ===  
=== '''สิทธิประโยชน์ทางภาษี''' ===  
Line 34: Line 31:
   ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ
   ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ


    ซึ่งการลดหย่อนของ กบข. เป็นไปตามกฏกระทรวงฉบับที่ 266 (พ.ศ.2551)
   ซึ่งการลดหย่อนของ กบข. เป็นไปตาม'''กฏกระทรวงฉบับที่ 266 (พ.ศ.2551)'''
 




Line 42: Line 40:
และไม่มีกำหนดเพดานที่เป็น % '''บอกแต่เพียงว่า ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับ RMF SSF ประกันบำนาญ ก็ไม่เกิน 500,000 บาท'''
และไม่มีกำหนดเพดานที่เป็น % '''บอกแต่เพียงว่า ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับ RMF SSF ประกันบำนาญ ก็ไม่เกิน 500,000 บาท'''


ตรวจสอบตารางสรุปการหักลดหย่อนและยกเว้นภาษีเพื่อการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คลิกที่นี่ <nowiki>https://www.rd.go.th/59674.html</nowiki>
ตรวจสอบตารางสรุปการหักลดหย่อนและยกเว้นภาษีเพื่อการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คลิกที่นี่ https://www.rd.go.th/59674.html


==== 2. เงินก้อนที่ได้รับคืนจาก กบข. จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากสมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุ ดังนี้ ====
==== 2. เงินก้อนที่ได้รับคืนจาก กบข. จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากสมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุ ดังนี้ ====
Line 60: Line 58:
'''***หมายเหตุ''' : ข้าราชการย้ายประเภทจากเบี้ยหวัดเป็นบำนาญ เงินประเดิม(ถ้ามี) เงินชดเชย พร้อมผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากเข้าเหตุทดแทน
'''***หมายเหตุ''' : ข้าราชการย้ายประเภทจากเบี้ยหวัดเป็นบำนาญ เงินประเดิม(ถ้ามี) เงินชดเชย พร้อมผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากเข้าเหตุทดแทน


==== 3. สมาชิกที่พ้นสมาชิกสภาพและเลือกให้ กบข. บริหารต่อ/ขอทยอยรับเงิน (กฎกระทรวงฉบับที่ 277 พ.ศ.2553) จะได้รับการยกเว้นภาษี ดังนี้ ====
==== 3. สมาชิกที่พ้นสมาชิกสภาพและเลือกให้ กบข. บริหารต่อ/ขอทยอยรับเงิน ('''กฎกระทรวงฉบับที่ 277 พ.ศ.2553''') จะได้รับการยกเว้นภาษี ดังนี้ ====
    3.1 '''สมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุเกษียณ สูงอายุ ทดแทนหรือทุพพลภาพ'''  
    3.1 '''สมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุเกษียณ สูงอายุ ทดแทนหรือทุพพลภาพ'''  


Line 69: Line 67:
         - เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีที่ฝากเงินให้ กบข. บริหารต่อทั้งจำนวน แล้วขอรับเงินคืนตอนที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือ เสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ  
         - เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีที่ฝากเงินให้ กบข. บริหารต่อทั้งจำนวน แล้วขอรับเงินคืนตอนที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือ เสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ  


==== 4. กรณีโอนเงินจาก กบข. ไปกองทุนสํารองเลี้ยงชีพอื่น กบข. ไม่หักภาษี ณ จ่าย ====
==== 4. กรณีโอนเงินจาก กบข. ไปกองทุนสํารองเลี้ยงชีพอื่น กบข. '''ไม่หักภาษี ณ จ่าย''' ====
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
'''3. วิธีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับสมาชิก  '''


=== '''3. วิธีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับสมาชิก  ''' ===
ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) เรื่อง   กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งนายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ตามมาตรา 48 (5) และมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร  <nowiki>https://www.rd.go.th/3213.html</nowiki>
ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) เรื่อง   กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งนายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ตามมาตรา 48 (5) และมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร  <nowiki>https://www.rd.go.th/3213.html</nowiki>


 
==== 1. ลาออก : รับบำนาญ       ====
1. ลาออก :  รับบำนาญ      
 
นำเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินทั้งหมด รวมกัน = เงินได้
นำเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินทั้งหมด รวมกัน = เงินได้


Line 107: Line 84:


เงินได้ (หลังหักเงินสะสม)                                               = 804,659.32  บาท
เงินได้ (หลังหักเงินสะสม)                                               = 804,659.32  บาท




Line 114: Line 92:


คงเหลือ                                                                    = 713,659.32  บาท
คงเหลือ                                                                    = 713,659.32  บาท




หัก ค่าใช้จ่ายส่วนสอง อีก 50%                                        = 356,829.66  บาท
หัก ค่าใช้จ่ายส่วนสอง อีก 50%                                        = 356,829.66  บาท




Line 122: Line 102:




     
 
     


วิธีการคำนวณภาษี
วิธีการคำนวณภาษี




เงินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี   356,829.66 บาท  
เงินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี   356,829.66 บาท  




Line 133: Line 116:


56,829.66    คููณอัตราภาษี  10%    =   5,682.96
56,829.66    คููณอัตราภาษี  10%    =   5,682.96




Line 139: Line 123:




2. ลาออก :  ไม่ได้รับบำนาญ  (อายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป)
==== 2. ลาออก :  ไม่ได้รับบำนาญ  (อายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป) ====
 
นำเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบรวมกัน = เงินได้
นำเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบรวมกัน = เงินได้


Line 149: Line 132:
หลังจากนั้น นำเงินได้ (ถ้าเหลือ) คำนวณภาษี  โดย '''ไม่ได้รับการยกเว้น 150,000 บาท'''
หลังจากนั้น นำเงินได้ (ถ้าเหลือ) คำนวณภาษี  โดย '''ไม่ได้รับการยกเว้น 150,000 บาท'''


 
==== 3. ลาออก :  (อายุงานไม่ถึง 5 ปี) ====
3. ลาออก :  (อายุงานไม่ถึง 5 ปี)





Revision as of 03:02, 7 January 2025

กลับไปยังหน้า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)

การยื่นภาษี

สมาชิกนำใบแจ้งยอดส่วน "สำหรับกรมสรรพากร" ไปแนบ แบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 เพื่อขอยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สำหรับเงินสะสมที่ส่งเข้ากองทุนตามที่จ่ายจริงของเงินเดือน

เมื่อรวมกับกองทุน RMF ,กองทุน SSF (ปกติ) ,ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ

ตามประกาศของกรมสรรพากร กฏกระทรวงฉบับที่ 126 (43)เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าแสนบาทสำหรับปีภาษีนั้น

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป)

คลิกดูข้อมูลที่นี่ https://www.rd.go.th/59674.html

---------------------------------------------

เงินได้ที่ได้รับจาก กองทุนบำเหน็จบำนาญ

กรณีสมาชิกพ้นสภาพและได้รับเงินได้จาก กบข. เนื่องจากออกจากราชการด้วยเหตุ ลาออก ,ปลดออก,ไล่ออก สมาชิกต้องนำเงินได้ที่ได้รับจาก กบข. ที่ได้แสดงในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเสียภาษีในแบบ ภ.ง.ด. 90, 9 โดยสามารถนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่นๆ หรือจะยื่นแยกคำนวณภาษีต่างหากก็ได้ ซึ่งการแยกคำนวณภาษี มักจะช่วยให้สมาชิกเสียภาษีถูกกว่าการนำไปรวมคำนวณภาษีกับรายได้อื่นๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กัยรายได้และค่าตอบแทนของแต่ละบุคคล

                   หากต้องการยื่นแยกคำนวณสมาชิกจะต้องใช้แบบฟอร์มแนบ “ใบแนบ ภ.ง.ด.90,91” ตามตัวอย่างนี้

Error creating thumbnail: File missing

สิทธิประโยชน์ทางภาษี

สมาชิกจะได้รับสิทธิทางภาษีดังนี้

1. เงินสะสม เงินสะสมส่วนเพิ่ม

สมาชิกสามารถนำไปยื่นลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่จ่ายจริง เมื่อรวมกับกองทุน RMF ,กองทุน SSF (ปกติ)

   ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ

   ซึ่งการลดหย่อนของ กบข. เป็นไปตามกฏกระทรวงฉบับที่ 266 (พ.ศ.2551)



***หมายเหตุ ***  ตามประกาศของกรมสรรพากร กฏกระทรวงฉบับที่ 126 ข้อ 2 (43) ไม่ได้กำหนดขั้นต่ำของเงินสะสม กบข. ที่ 15%

และไม่มีกำหนดเพดานที่เป็น % บอกแต่เพียงว่า ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับ RMF SSF ประกันบำนาญ ก็ไม่เกิน 500,000 บาท

ตรวจสอบตารางสรุปการหักลดหย่อนและยกเว้นภาษีเพื่อการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คลิกที่นี่ https://www.rd.go.th/59674.html

2. เงินก้อนที่ได้รับคืนจาก กบข. จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากสมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุ ดังนี้

  2.1 สูงอายุ (เกษียณ,เกษียณก่อนกำหนด)

  2.2 ทดแทน (ออกนอกระบบ)

  2.3 ทุพพลภาพ (มีใบรับรองแพทย์สั่งเป็นบุคคลทุพพลภาพ)

  2.4 เสียชีวิต

กรณีออกจากราชการด้วยเหตุอื่นนอกเหนือจาก 4 เหตุข้างต้น จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของเงินต้นของเงินสะสมและเงินออมเพิ่ม(ถ้ามี)

ส่วนเงินที่ได้รับจากรัฐ และผลตอบแทนจากเงินสะสมและเงินออมเพิ่ม(ถ้ามี)จะต้องนำไปคำนวณรวมกับรายได้อื่นเพื่อเสียภาษีในปีนั้นด้วย


***หมายเหตุ : ข้าราชการย้ายประเภทจากเบี้ยหวัดเป็นบำนาญ เงินประเดิม(ถ้ามี) เงินชดเชย พร้อมผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากเข้าเหตุทดแทน

3. สมาชิกที่พ้นสมาชิกสภาพและเลือกให้ กบข. บริหารต่อ/ขอทยอยรับเงิน (กฎกระทรวงฉบับที่ 277 พ.ศ.2553) จะได้รับการยกเว้นภาษี ดังนี้

    3.1 สมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุเกษียณ สูงอายุ ทดแทนหรือทุพพลภาพ

         - เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นนับจากวันที่ให้ กบข. บริหารต่อ/ขอทยอยรับเงิน

    3.2 สมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุอื่น ๆ

         - เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีที่ฝากเงินให้ กบข. บริหารต่อทั้งจำนวน แล้วขอรับเงินคืนตอนที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือ เสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ

4. กรณีโอนเงินจาก กบข. ไปกองทุนสํารองเลี้ยงชีพอื่น กบข. ไม่หักภาษี ณ จ่าย

3. วิธีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับสมาชิก  

ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) เรื่อง   กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งนายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ตามมาตรา 48 (5) และมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร  https://www.rd.go.th/3213.html

1. ลาออก : รับบำนาญ      

นำเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินทั้งหมด รวมกัน = เงินได้

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนแรก      =  3,500 x  อายุราชการ

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนที่สอง    =  หักค่าใช้จ่ายอีกร้อยละ 50 ของเงินส่วนที่เหลือนั้น

หลังจากนั้น นำเงินได้ (ถ้าเหลือ) นำไปคำนวณตามฐานภาษีโดย ไม่ได้รับการยกเว้น 150,000 บาท

ตัวอย่าง

เงินได้ (หลังหักเงินสะสม)                                               = 804,659.32  บาท


หัก ค่าใช้จ่ายส่วนแรก (3,500 x 26 )                                 = 91,000        บาท  

(อายุงานไม่รวมวันทวีคูณ และการนับอายุงานในแต่ละปีหากถึง 183 วันจะนับเป็น 1 ปี)                        

คงเหลือ                                                                    = 713,659.32  บาท


หัก ค่าใช้จ่ายส่วนสอง อีก 50%                                        = 356,829.66  บาท


เงินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี                                       = 356,829.66 บาท


   

วิธีการคำนวณภาษี


เงินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี   356,829.66 บาท


300,000       คููณอัตราภาษี 5%      =  15,000

56,829.66    คููณอัตราภาษี  10%    =   5,682.96


อัตราภาษีที่หัก ณ ที่จ่าย                                      = 20,682.97     บาท


2. ลาออก :  ไม่ได้รับบำนาญ  (อายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป)

นำเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบรวมกัน = เงินได้

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนแรก      =  7,000 x  อายุราชการ

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนที่สอง   =  หักค่าใช้จ่ายอีกร้อยละ 50 ของเงินส่วนที่เหลือนั้น

หลังจากนั้น นำเงินได้ (ถ้าเหลือ) คำนวณภาษี  โดย ไม่ได้รับการยกเว้น 150,000 บาท

3. ลาออก :  (อายุงานไม่ถึง 5 ปี)

        สำหรับการคำนวณภาษี คือ นำเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบรวมกัน จะเป็นเงินได้ของสมาชิก

หลังจากนั้นหักค่าใช้จ่ายตามเกณฑ์สรรพากร (60,000) นำเงินได้ส่วนที่เหลือ คำนวณอัตราภาษี

ซึ่งหากเงินได้ต่ำกว่า 150,000 บาทแรกจะไม่มีการหักภาษี แต่หากเงินได้มากกว่า 150,001 บาทจะถูกหักภาษี ตามตาราง