เหตุและสิทธิ หัวข้อย่อย สิทธิการยื่นภาษี

From KB

กลับไปยังหน้า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPF)

การยื่นภาษี

สมาชิกนำใบแจ้งยอดส่วน "สำหรับกรมสรรพากร" ไปแนบ แบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 เพื่อขอยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สำหรับเงินสะสมที่ส่งเข้ากองทุนตามที่จ่ายจริงของเงินเดือน

เมื่อรวมกับกองทุน RMF ,กองทุน SSF (ปกติ) ,ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ

ตามประกาศของกรมสรรพากร กฏกระทรวงฉบับที่ 126 (43)เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเฉพาะส่วนที่ไม่เกินห้าแสนบาทสำหรับปีภาษีนั้น

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 266 (พ.ศ. 2551) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป)

คลิกดูข้อมูลที่นี่ https://www.rd.go.th/59674.html

---------------------------------------------

เงินได้ที่ได้รับจาก กองทุนบำเหน็จบำนาญ

กรณีสมาชิกพ้นสภาพและได้รับเงินได้จาก กบข. เนื่องจากออกจากราชการด้วยเหตุ ลาออก ,ปลดออก,ไล่ออก สมาชิกต้องนำเงินได้ที่ได้รับจาก กบข. ที่ได้แสดงในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเสียภาษีในแบบ ภ.ง.ด. 90, 9 โดยสามารถนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่นๆ หรือจะยื่นแยกคำนวณภาษีต่างหากก็ได้ ซึ่งการแยกคำนวณภาษี มักจะช่วยให้สมาชิกเสียภาษีถูกกว่าการนำไปรวมคำนวณภาษีกับรายได้อื่นๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กัยรายได้และค่าตอบแทนของแต่ละบุคคล

                   หากต้องการยื่นแยกคำนวณสมาชิกจะต้องใช้แบบฟอร์มแนบ “ใบแนบ ภ.ง.ด.90,91” ตามตัวอย่างนี้

Error creating thumbnail: File missing

สิทธิประโยชน์ทางภาษี

สมาชิกจะได้รับสิทธิทางภาษีดังนี้

1. เงินสะสม เงินสะสมส่วนเพิ่ม

สมาชิกสามารถนำไปยื่นลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่จ่ายจริง เมื่อรวมกับกองทุน RMF ,กองทุน SSF (ปกติ)

   ประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ในปีภาษีนั้นๆ

   ซึ่งการลดหย่อนของ กบข. เป็นไปตามกฏกระทรวงฉบับที่ 266 (พ.ศ.2551)


***หมายเหตุ ***  ตามประกาศของกรมสรรพากร กฏกระทรวงฉบับที่ 126 ข้อ 2 (43) ไม่ได้กำหนดขั้นต่ำของเงินสะสม กบข. ที่ 15% และไม่มีกำหนดเพดานที่เป็น % บอกแต่เพียงว่า ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับ RMF SSF ประกันบำนาญ ก็ไม่เกิน 500,000 บาท

ตรวจสอบตารางสรุปการหักลดหย่อนและยกเว้นภาษีเพื่อการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คลิกที่นี่ https://www.rd.go.th/59674.html

2. เงินก้อนที่ได้รับคืนจาก กบข. จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากสมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุ ดังนี้

  2.1 สูงอายุ (เกษียณ,เกษียณก่อนกำหนด)

  2.2 ทดแทน (ออกนอกระบบ)

  2.3 ทุพพลภาพ (มีใบรับรองแพทย์สั่งเป็นบุคคลทุพพลภาพ)

  2.4 เสียชีวิต

กรณีออกจากราชการด้วยเหตุอื่นนอกเหนือจาก 4 เหตุข้างต้น จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของเงินต้นของเงินสะสมและเงินออมเพิ่ม(ถ้ามี)

ส่วนเงินที่ได้รับจากรัฐ และผลตอบแทนจากเงินสะสมและเงินออมเพิ่ม(ถ้ามี)จะต้องนำไปคำนวณรวมกับรายได้อื่นเพื่อเสียภาษีในปีนั้นด้วย


***หมายเหตุ : ข้าราชการย้ายประเภทจากเบี้ยหวัดเป็นบำนาญ เงินประเดิม(ถ้ามี) เงินชดเชย พร้อมผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากเข้าเหตุทดแทน

3. สมาชิกที่พ้นสมาชิกสภาพและเลือกให้ กบข. บริหารต่อ/ขอทยอยรับเงิน (กฎกระทรวงฉบับที่ 277 พ.ศ.2553) จะได้รับการยกเว้นภาษี ดังนี้

    3.1 สมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุเกษียณ สูงอายุ ทดแทนหรือทุพพลภาพ

         - เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นนับจากวันที่ให้ กบข. บริหารต่อ/ขอทยอยรับเงิน

    3.2 สมาชิกออกจากราชการด้วยเหตุอื่น ๆ

         - เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจาก กบข. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีที่ฝากเงินให้ กบข. บริหารต่อทั้งจำนวน แล้วขอรับเงินคืนตอนที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือ เสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ

4. กรณีโอนเงินจาก กบข. ไปกองทุนสํารองเลี้ยงชีพอื่น กบข. ไม่หักภาษี ณ จ่าย

วิธีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับสมาชิก  

ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) เรื่อง   กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งนายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ตามมาตรา 48 (5) และมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร  https://www.rd.go.th/3213.html

1. ลาออก : รับบำนาญ      

นำเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินทั้งหมด รวมกัน = เงินได้

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนแรก      =  3,500 x  อายุราชการ

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนที่สอง    =  หักค่าใช้จ่ายอีกร้อยละ 50 ของเงินส่วนที่เหลือนั้น

หลังจากนั้น นำเงินได้ (ถ้าเหลือ) นำไปคำนวณตามฐานภาษีโดย ไม่ได้รับการยกเว้น 150,000 บาท

ตัวอย่าง

เงินได้ (หลังหักเงินสะสม)                                                = 804,659.32  บาท

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนแรก (3,500 x 26 )                              = 91,000        บาท  

(อายุงานไม่รวมวันทวีคูณ และการนับอายุงานในแต่ละปีหากถึง 183 วันจะนับเป็น 1 ปี)                        

คงเหลือ                                                                    = 713,659.32  บาท

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนสอง อีก 50%                                        = 356,829.66  บาท

เงินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี                                      = 356,829.66 บาท

 วิธีการคำนวณภาษี

เงินสุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี   356,829.66 บาท

300,000       คููณอัตราภาษี 5%      =  15,000

56,829.66    คููณอัตราภาษี  10%     =  5,682.96

อัตราภาษีที่หัก ณ ที่จ่าย                           = 20,682.97     บาท

2. ลาออก :  ไม่ได้รับบำนาญ  (อายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป)

นำเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบรวมกัน = เงินได้

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนแรก      =  7,000 x  อายุราชการ

หัก ค่าใช้จ่ายส่วนที่สอง    =  หักค่าใช้จ่ายอีกร้อยละ 50 ของเงินส่วนที่เหลือนั้น

หลังจากนั้น นำเงินได้ (ถ้าเหลือ) คำนวณภาษี  โดย ไม่ได้รับการยกเว้น 150,000 บาท

3. ลาออก :  (อายุงานไม่ถึง 5 ปี)

สำหรับการคำนวณภาษี คือ นำเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบรวมกัน จะเป็นเงินได้ของสมาชิก

หลังจากนั้นหักค่าใช้จ่ายตามเกณฑ์สรรพากร (60,000) นำเงินได้ส่วนที่เหลือ คำนวณอัตราภาษี

ซึ่งหากเงินได้ต่ำกว่า 150,000 บาทแรกจะไม่มีการหักภาษี แต่หากเงินได้มากกว่า 150,001 บาทจะถูกหักภาษี ตามตาราง

เอกสารข้อมูลเพิ่มเติม

รายการเอกสาร ไฟล์เอกสาร
ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 76 File:ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 76.pdf
ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 189 File:ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 189.pdf
ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 266 File:ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 266.pdf
ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 277 File:ประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 277.pdf
ลดหย่อนภาษี File:ลดหย่อนภาษี.pdf
สิทธิประโยชน์ทางภาษี File:สิทธิประโยชน์ทางภาษี.pdf