สินเชื่อคอนโด
หากว่าคุณกำลังมีแผนจะขอสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดกับธนาคาร มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องรู้ และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้การขอสินเชื่อผ่าน
ในการขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อซื้อคอนโด สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนนั่นคือ การเตรียมความพร้อมให้ดี ตั้งแต่การหาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อ การจัดการเครดิตการเงิน ไปจนถึงการเตรียมเอกสารให้ครบ เพื่อให้การขอสินเชื่อได้รับการอนุมัติได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
หากว่าคุณกำลังมีแผนจะขอสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดกับธนาคาร มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องรู้ และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้การขอสินเชื่อผ่านฉลุย center|thumb|649x649px
5 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนขอสินเชื่อสำหรับซื้อคอนโด
1. หาข้อมูลสินเชื่อคอนโดกับธนาคารที่ตอบโจทย์
แต่ละธนาคารจะมีโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย พร้อมโปรโมชันมากมาย ซึ่งในการคัดเลือกเลือกสินเชื่อสำหรับซื้อคอนโดให้เหมาะสมกับคุณ สามารถพิจารณาได้จาก
- โครงการสินเชื่อที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ โดยให้ดูที่วัตถุประสงค์ในการยื่นกู้ของแต่ละโครงการสินเชื่อ ว่าสามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดได้หรือไม่ และดูที่คุณสมบัติตามที่ทางธนาคารกำหนด ว่าคุณเข้าเงื่อนไขที่สามารถยื่นขอสินเชื่อในโครงการนั้นหรือไม่
- วงเงินสินเชื่อจากราคาประเมิน โดยเลือกดูว่าโครงการของแต่ละธนาคาร จะให้วงเงินกู้สูงสุดที่กี่ % ของราคาประเมิน และให้วงเงินอนุมัติที่ประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้คุณเตรียมตัวและวางแผนสำหรับการหาเงินในส่วนที่เหลือในการซื้อคอนโด
- ระยะเวลาในการผ่อน โดยดูว่าแต่ละโครงการที่คุณเข้าเงื่อนไข มีระยะเวลาในการผ่อนสูงสุดที่กี่ปี เพราะยิ่งระยะเวลาในการผ่อนที่มากขึ้น จะทำให้เงินที่ต้องผ่อนในแต่ละงวดไม่สูงจนเกินไป และช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
โดยหลังจากที่คุณหาข้อมูลได้ครอบคลุมแล้ว ก็สามารถจัดทำเป็น ตารางเปรียบเทียบวงเงินสินเชื่อ เพื่อเป็นการสรุปภาพรวมทั้งหมด และช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกสินเชื่อกับธนาคารได้อย่างตอบโจทย์
2. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ย เป็นหนึ่งส่วนสำคัญที่ต้องใช้ในการนำมาพิจารณาเลือกสินเชื่อคอนโดกับทางธนาคาร ซึ่งหากคุณเลือกกู้ซื้อคอนโดดอกเบี้ยต่ำ ก็จะช่วยให้การผ่อนชำระสินเชื่อหมดได้ไวขึ้น และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาวอีกด้วย
สำหรับวิธีคิดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารจะใช้การคำนวณ คือ
อัตราดอกเบี้ยในแต่ละงวด = ยอดเงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่อปี (%) x จำนวนวันใน 1 เดือน (30 หรือ 31) / จำนวนวันใน 1 ปี (365 หรือ 366)
โดยอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อคอนโด จะมีอยู่ 2 ประเภท เช่นเดียวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแบบอื่นๆ นั่นคือ
- อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fixed Rate) เป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยในแบบคงที่ตลอดอายุสัญญาหรือในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งในอนาคตหากว่ามีการปรับตัวขึ้นลงของตลาดการเงิน คุณก็ยังจ่ายดอกเบี้ยเท่าเดิม
- อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate) เป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยตามต้นทุนหรือผลประกอบการของธนาคาร ซึ่งอาจะช่วยให้ผู้กู้ได้ประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ยได้ในบางช่วง
ซึ่งผู้กู้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่แตกต่างกันตามความสามารถในการชำระหนี้ โดยอ้างอิงมาจาก
- MLR (Minimum Loan Rate) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา โดยเป็นผู้ที่มีประวัติการเงินดี ชำระหนี้ตามเวลา และมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพียงพอ
- MOR (Minimum Overdraft Rate) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี
- MRR (Minimum Retail Rate) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือบุคคลทั่วไป
ส่วนใหญ่ในการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ให้กับผู้กู้ในช่วง 1-3 ปีแรก จากนั้นจะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งหลังจากนั้นผู้กู้สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ได้ ก็จะช่วยให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงตามโปรโมชันของธนาคารใหม่อีกด้วย หมวดหมู่:สินเชื่อ หมวดหมู่:คอนโด หมวดหมู่:สินเชื่อคอนโด